วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย


            เมื่อหมื่นกว่าปีมาแล้ว ชาวพื้นเมืองมาเลย์ อพยพมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่บนแหลมมลายู แต่เมื่อก่อนนั้น แหลมมลายูตกอยู่ใต้การปกครองของพวกฟูนัน ซึ่งมีศูน์กลางอยู่ในดินแดนกัมพูชา พวกศรีวิชัย ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในสุมาตรา และอาณาจักรมัชปาหิต (Majapahit) ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่หมู่เกาะชวา ก่อนที่ชาวจีนจะอพยพเข้ามาอยู่ในมะละกาตอนต้นศตวรรษที่ 14 พร้อมๆ กับการเข้ามาของศาสนาอิสลาม ที่ได้รับการยอมรับนับถือในหมู่คนพื้นเมืองอย่างรวดเร็ว และความเจริญรุ่งเรืองของมะละกานี่เอง ที่ชักนำให้ชาวยุโรป เกิดความสนใจดินแดนส่วนนี้ และเริ่มต้นเส้นทางการค้าเครื่องเทศกับมะละกา


            ในศตวรรษที่ 15 เส้นทางเดินเรือไปค้าเครื่องเทศกับประเทศตะวันออกต้องผ่านอียิปต์ ซึ่งไม่ยินยอมให้เรือของคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม เข้ามาจอดแวะ สร้างความยุ่งยากลำบากให้กับเรือของพวกยุโรปมาก ดังนั้น ชาวยุโรปจึงแสวงหาเส้นทางเดินเรือใหม่ ชาวโปรตุเกสเป็นชาวยุโรปพวกแรกที่เข้ามาถึง และเข้าครอบครองดินแดนบนแหลมมลายูในปี ค.ศ.1511 ต่อมาชาวดัตช์ได้ติดตามมายึดครองพื้นที่บางส่วน บนแหลมมลายูในตอนต้นศตวรรษที่ 16 ตามมาด้วยอังกฤษที่แผ่อิทธิพลมาถึงซีกโลกนี้ ด้วยการมาตั้งเมืองท่าที่ปีนังเมื่อปี ค.ศ. 1786 และเข้ามายึดครองมะละกาในเวลาอีก 10 ปีต่อมา อังกฤษยึดเอาดินแดนบนแหลมมลายูเป็นอาณานิคม เมื่อมีการพบแร่ดีบุก หลังจากนั้น มาเลเซียตะวันออกก็ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ โดยนักเผชิญโชคชื่อ ชาร์ลส์ บรูค ผู้ซึ่งภายหลังได้รับการสถาปนาเป็นราชาแห่งซาราวัก (Rajah of Sarawak) ได้ทำการแย่งชิงการปกครองดินแดน มาจากสุลต่านแห่งบรูไน และนำดินแดนนี้กับบริษัทนอร์ทบอร์เนียง (North Borneo Company) ซึ่งปกครองดูแลรัฐซาบาห์อยู่ในขณะนั้น มามอบให้เป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษก็เข้ามามีอำนาจปกครองเหนือซาบาห์กับซาราวักโดยเด็ดขาด
            เมื่อเกิดความต้องการแรงงานมาทำสวนยางกับ อุตสาหกรรมแร่ดีบุกที่มลายู อังกฤษได้นำชาวอินเดียจำนวนมาก เข้ามาอยู่บนแหลมมลายู ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บนแหลมมลายูเป็นประชากรที่มีหลากหลายเชื้อชาติ
            เมื่อญี่ปุ่นบุกเข้าครองแหลมมลายู ชาวพื้นเมืองได้รวมตัวกันตั้งกองทหารป่า (Communists Guerrillas) ต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง กองทหารป่าติดอาวุธของมาเลเซียไม่ได้สลายตัวไป กลับมารวมตัวกัน หันมาทำการต่อต้านการปกครองของอังกฤษ เมื่อ ค.ศ.1948 และได้รับชัยชนะในที่สุด มลายูได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี ค.ศ.1957 ประเทศมาเลเซียจึงถือกำเนิดขึ้นจากการรวมตัวกันของซาบาห์ ซาราวัก และสิงคโปร์ในปี ค.ศ.1963 โยมีตวนกู อับดุล ราห์มาน (Tunku Abdul Rahman) เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศมาเลเซีย แต่ในเวลาอีก 2 ปีต่อมา สิงคโปร์ก็ถอนตัวออกจากการเป็นหนึ่งในสหพันธรัฐมาเลเซียไปตั้งประเทศใหม่ การตั้งตัวเป็นประเทศของมาเลเซีย ได้รับการคัดค้านอย่างมากจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เพราะทั้งสองประเทศนี้ อ้างสิทธิในการปกครองดินแดนบางส่วน ทางตะวันออกของมาเลเซีย
            ต่อมาเกิดสถานการณ์ตึงเครียดขึ้น เมื่อมาเลเซียต้องเผชิญหน้ากับอินโดนีเซีย เมื่ออินโดนีเซียยกกองกำลังบุกรุกข้ามเข้ามาในพรมแดนมาเลเซีย แต่ถูกต่อต้านอย่างเข้มแข็งจากกองทัพมาเลเซีย และกองกำลังผสมของประเทศในเครือจักรภพ จนอินโดนนีเซียต้องถอนกำลังกลับไป ต่อมาเกิดสถานการณ์ไม่สงบขึ้นในมาเลเซีย มีการจราจลกลางเมือง เพราะมีการปะทะกันระหว่างประชาชนต่างเชื้อชาติของมาเลเซีย คือ ชาวมาเลย์กับชาวจีน โดยชาวจีนถูกฆ่าตายไปหลายร้อยคน แต่รัฐบาลก็สามารถจัดการแก้ปัญหาได้สำเร็จ พลเมืองต่างเชื้อชาติของมาเลเซีย จึงสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น